ลักษณะการออกแบบป้ายทอ เช่น ขนาดของป้ายทอ ลักษณะการเผื่อเย็บ ลักษณะการวางรูป logo หรือตัวอักษรในป้ายทอ ต้องออกแบบให้สัมพันธ์กับการวางตำแหน่งของป้ายทอและวิธีการที่เย็บติดกับเสื้อผ้า
วิธีเย็บติดป้ายกับเสื้อผ้ามี 10 วิธีหลักๆคือ
Table of Contents
1. ป้ายเสื้อที่พับเย็บด้านซ้ายและด้านขวาขวา
การออกแบบลักษณะของป้ายทอกับการเย็บติดกับเสื้อผ้าแบบนี้ ใช้เย็บติดได้ทั้งคอเสื้อ ติดขอบเอวกระโปรง หรือ กางเกง การออกแบบป้าย label ต้องมีการเผื่อเนื้อที่ในการพับเย็บด้านซ้ายและด้านขวาประมาณ ด้านละ 0.7 cm ในกรณีที่เป็นป้ายทอดามาสค์ ส่วนที่พับเย็บสามารถที่จะเว้นไม่ทอดามาสค์ เพื่อให้ผ้าส่วนที่พับเย็บมีความบางกว่าซึ่งจะง่ายต่อการเย็บติดป้ายทอ
2. การเย็บติดทั้งสี่ด้านของป้ายทอ
การเย็บติดแบบนี้จะทำให้ป้ายทอแนบสนิทกับเนื้อผ้าเพราะเป็นการเย็บติดกับเสื้อผ้าทุกด้าน ส่วนใหญ่เป็นการเย็บติดที่คอเสื้อเชิ๊ต เสื้อยืด หรือเสื้อสูท หรือกางเกงด้านใน หรือเป็นป้ายทอใหญ่ที่ติดกับด้านหลังของเสื้อยืดด้านนอกเพื้อโชว์ความสวยงามของป้ายทอเพื่อให้เสื้อผ้าดูดีขึ้น หรือเย็บติดกับกระเป๋าผ้าแบบสะพาย เป็นการออกแบบตามแฟชั่นที่ทันสมัยสวยงาม ซึ่งป้ายทอต้องมีการเผื่อเนื้อที่ว่างในการเย็บรอบๆ ป้ายทอทุกด้าน ด้านละประมาณ 3 mm
3. การพับครึ่งสอดเย็บด้านบน
ส่วนใหญ่ป้ายทอลักษณะนี้จะใช้เย็บติดกับคอเสื้อเชิ้ต หรือคอเสื้อยืด โดยป้ายจะใส่ข้อมูลเป็นการดูแลรักษาผ้าด้วย เช่น ป้าย care instruction, Cotton 100% เป็นการออกแบบป้ายทอเพื่อใส่ รูปหรือตัวอักษรในแนวตั้งของป้ายทอ ซึ่งต้องการป้ายทอที่กว้างขึ้นเพื่อให้เพียงพอในการใส่ข้อมูลที่เป็นการทอรูปภาพหรือตัวอักษรในแต่ละบรรทัด ส่วนใหญ่ป้ายทอแบบนี้จะต้องกว้างตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป ส่วนของความยาวของป้ายทอต้องมีการเผื่อเนื้อที่ในการพับเพื่อสอดเย็บ ด้านบนและด้านล่าง ด้านละ 0.7 cm ในการณีที่เป็นป้ายทอดามาสค์สำหรับเย็บติดกับเสื้อผ้าที่มมีความบาง เนื้อที่ในส่วนที่ถูกพับสอดเย็บก็สามารถเว้นไม่ทอดามาสค์ เพื่อให้เนื้อที่ส่วนนั้นมีความบาง สามารถพับทบและสอดเย็บได้สะดวก
4. ป้ายเสื้อที่เย็บติดเฉพาะด้านบนและด้านล่างแบบไม่พับเย็บ
ป้ายทอแบบนี้จะถูกออกแบบคล้ายๆกับป้ายทอที่เย็บติดทั้งสี่ด้าน แต่เวลาเย็บติดกับเสื้อผ้าจะเย็บติดเฉพาะด้านบนและด้านล่างเท่านั้น เหมาะกับการเย็บติดกับด้านในของเสื้อผ้า เช่น คอเสื้อ หรือขอบกางเกงหรือกระโปรง ซึ่งต้องมีการเว้นในการเผื่อเย็บด้านบนและด้านล่าง ด้านละ 3 mm
5. ป้ายเสื้อที่เย็บด้านซ้ายและด้านขวาแบบไม่พับเย็บ
ป้ายทอแบบนี้จะถูกออกแบบคล้ายๆกับป้ายทอที่เย็บติดทั้งสี่ด้าน แต่เวลาเย็บติดกับเสื้อผ้าจะเย็บติดเฉพาะด้านซ้ายและด้านขวาเท่านั้น เหมาะกับการเย็บติดกับด้านในของเสื้อผ้า เช่น คอเสื้อ หรือขอบกางเกงหรือกระโปรง ซึ่งต้องมีการเว้นในการเผื่อเย็บด้านซ้ายและด้านขวา ด้านละ 3 mm การออกแบบป้ายทอแบบนี้จะสั้นกว่า แบบของป้ายทอแบบพับเย็บด้านซ้ายและด้านขวา ทำให้ประหยัดต้นทุนมากกว่า
6. การพับครึ่งสอดเย็บด้านซ้าย
ส่วนใหญ่ป้ายทอลักษณะนี้จะออกแบบสำหรับเย็บติดกับกระเป๋าเสื้อ หรือด้านข้างของเสื้อ หรือด้านข้างของกระเป๋าสะพาย หรือออกแบบเพื่อติดกับเต๊นท์นอน ซึ่งป้ายทอต้องมีการเผื่อเนื้อที่ในการพับเพื่อสอดเย็บ ด้านซ้ายและด้านขวา ด้านละ 0.7 cm ในการณีที่เป็นป้ายทอดามาสค์ และออกแบบสำหรับติดเสื้อผ้าที่มีความบาง เนื้อที่ในส่วนที่ถูกพับสอดเย็บก็สามารถเว้นไม่ทอดามาสค์ เพื่อให้เนื้อที่ส่วนนั้นมีความบาง สามารถพับทบและสอดเย็บได้สะดวก
7. การพับครึ่งสอดเย็บด้านขวา
เป็นลักษณะการออกแบบป้ายทอที่คล้ายกับป้ายทอแบบพับครึ่งสอดเย็บด้านซ้าย ซึ่งส่วนใหญ่ป้ายทอลักษณะนี้จะออกแบบสำหรับเย็บติดกับกระเป๋าเสื้อ หรือด้านข้างของเสื้อ หรือด้านข้างของกระเป๋าสะพาย หรือออกแบบเพื่อติดกับเต๊นท์นอน เช่นกัน ซึ่งป้ายทอต้องมีการเผื่อเนื้อที่ในการพับเพื่อสอดเย็บ ด้านซ้ายและด้านขวา ด้านละ 0.7 cm ในการณีที่เป็นป้ายทอดามาสค์ และออกแบบสำหรับติดเสื้อผ้าที่มีความบาง เนื้อที่ในส่วนที่ถูกพับสอดเย็บก็สามารถเว้นไม่ทอดามาสค์ เพื่อให้เนื้อที่ส่วนนั้นมีความบาง สามารถพับทบและสอดเย็บได้สะดวก
8. การเย็บติดเฉพาะด้านซ้าย
ซึ่งเป็นการออกแบบป้ายทอเพื่อให้เย็บติดเพียงด้านเดียว ซึ่งจะมีการเย็บติดแบบอื่นๆคือ เย็บติดเฉพาะด้านขวา เย็บติดเฉพาะด้านบน เป็นการออกแบบที่ตรงไปตรงมา ง่าย มีการเผื่อพับเย็บ 3 mm เฉพาะด้านที่เย็บติดกับเสื้อผ้าเท่านั้น ซึ่งแบบนี้ไม่ค่อยเห็นกันแต่มีใช้อยู่ ส่วนใหญ่ป้ายทอแบบนี้จะออกแบบป้ายทอให้หนาและนุ่มโดยการทอดามาสค์ทั้งผืน เพื่อให้ป้ายทอไม่ยับและโก่งงอ
9. การเย็บติดป้ายทอแบบแขวน
การเย็บติดแบบนี้มีข้อดีคือดูทันสมัยและสวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ป้ายทอที่เย็บติดแบบนี้จะเป็นป้ายที่ติดบริเวณคอเสื้อ ป้ายมีขนาดกว้างไม่มาก ประมาณ 10 mm หรือกว่าเล็กน้อย เพราะต้องเผื่อเนื้อที่ในการแขวนป้ายมาก ยิ่งป้ายทอมีขนาดกว้างมากก็ต้องเผื่อเนื้อที่ในการแขวนป้ายมากขึ้น
10. การเย็บติดแบบพับเย็บด้านบนและด้านล่าง
เป็นการออกแบบโดยความกว้างของป้ายทอจะอยู่ด้านบนและความยาวของป้ายทอจะอยู่ด้านข้าง ซึ่งจะใช้ป้ายทอที่มีความกว้างมากกว่าปกต่ิ เพื่อให้ใส่ข้อมูลได้เพียงพอ และป้ายทอจะมีความสั้น ภาพ logo หรือตัวอักษรที่ใส่ลงในป้ายทอ แต่ละบรรทัด จะถูกจำกัดตามความกว้างของป้ายทอ การออกแบบการเย็บติดของป้ายทอแบบนี้มีให้เห็นได้น้อยกว่า
อ้างอิงมาจาก Website: https://www.siennapacific.com/clothing-labels/design-your-labels.html